วันนี้(8 พ.ค.)นายโสภณ ซารัมย์ ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย เป็นประธานปิดการฝึกอบรมโครงการ “รวมพลังรักศรัทธา แก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ” ร่วมมือกับมูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) อำเภอนาโพธิ์, ตำรวจสภ.นาโพธิ์, สาธารณสุขอำเภอนาโพธิ์ ,โรงพยาบาลนาโพธิ์, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, ผู้นำชุมชน หมู่บ้าน และวัด มีนายขุมทอง เลินไธสง นายอำเภอนาโพธิ์ พร้อมด้วยผู้บริหารทุกส่วนของอำเภอนาโพธิ์เข้าร่วม ที่ศูนย์รักศรัทธาต้านยาเสพติดแบบบูรณาการ วัดสมศรี ต.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์
.
นายโสภณกล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ได้นำผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่ อ.นาโพธิ์ จำนวน 65 คน อายุตั้งแต่ 15- 60 ปี เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ใช้ยาเสพติด โดยทุกคนสมัครใจเข้ารับการบำบัดและฟื้นฟู เป็นระยะเวลา 7 วันตั้งแต่วันที่ 2 - 8 พฤษภาคม 2568 ซึ่งได้มีการเชิญพ่อแม่ ผู้ปกครอง ให้มารับบุตรหลานที่สมัครใจเข้าฝึกอบรม ที่ศูนย์รักศรัทธาต้านยาเสพติดแบบบูรณาการ วัดสมศรี ซึ่งมีกิจกรรมพิธีทางศาสนา จากนั้นเป็นพิธีสู่ขวัญ ให้ลูกกราบพ่อแม่ ผู้ปกครอง ผูกข้อมือรับขวัญ เพื่อได้ลูกกลับไปเป็นคนดีของสังคม เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดี ไม่หวนกลับไปเสพยาเสพติดอีก ทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง และลูกถึงกับกอดกันร้องไห้ กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ด้วยความตื้นตันใจ เป็นภาพที่ประทับใจให้กับผู้ที่มาร่วมพิธีครั้งนี้
.
นายโสภณ กล่าวต่ออีกว่า สืบเนื่องจากวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 เวลา 04.30 น. อ.นาโพธิ์เปิดปฏิบัติการยุทธการฟ้าสางที่นาโพธิ์ พร้อมกันทั้งอำเภอนาโพธิ์ โดยบูรณาการสนธิกำลัง ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ สาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ชุดเฉพาะกิจรักศรัทธา ออกคัดกรองกลุ่มเป้าหมายผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่ วัตถุประสงค์เพื่อส่งเข้าศูนย์ฟื้นฟูรวมพลังรักศรัทธาบำบัดผู้เสพยาเสพติด ส่วนหนึ่งมีผู้สมัครใจเข้ารับการบำบัด และอีกส่วนหนึ่งต้องขอความร่วมมือจากผู้ปกครองส่งมาให้เข้าศูนย์ฟื้นฟูรวมพลังรักศรัทธาบำบัดผู้เสพยาเสพติด รวมถึงส่งเข้าศูนย์ฟื้นฟูรวมพลังรักศรัทธาแก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ (รุ่น 3)ร่วมกับมูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) อำเภอนาโพธิ์ สภ.นาโพธิ์ สาธารณสุขอำเภอนาโพธิ์ โรงพยาบาลนาโพธิ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน หมู่บ้าน และวัด ได้ทำกิจกรรมนันทนาการเพื่อผ่อนคลายให้แก่ผู้เข้าบำบัด
.
อีกทั้ง ฝ่ายปกครอง ตำรวจยังให้ความรู้ข้อกฎหมายและโทษภัยยาเสพติด พร้อมทั้งฝึกระเบียบแถว ฝึกระเบียบวินัย เคารพธงชาติ สวดมนต์ไหว้พระ รวมถึงจัดให้มีการแข่งขันกีฬาและออกกำลังกายในทุกวัน เพื่อสร้างความสามัคคีในหมู่คณะด้วย แต่หากสิ้นสุดการบำบัดกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวแล้ว ยังตรวจพบมีการหวนกลับไปเสพซ้ำ ก็จะต้องส่งเข้าบำบัดหรือดำเนินคดีตามกระบวนการตามกฎหมาย
.
ทางด้านพ่อแม่ ผู้ปกครอง กล่าวว่า ลูกชายเสพยา เพื่อนนำมาให้เสพ ก็รู้สึกทุกข์ใจที่ลูกชายเสพยา แต่เมื่อมีโครงการนี้ขึ้นมา โดยนำผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัด ก็รู้สึกดีใจ อีกทั้งลูกชายก็ได้รับปากว่าจะเลิกเสพและไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกต่อไป ก็ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ตนได้ลูกชายกลับไปเป็นคนดีของสังคม เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดี ไม่หวนกลับไปเสพยาเสพติดอีก ก็อยากให้ยาเสพติดหมดไปจากสังคมไทยเสียที