xs
xsm
sm
md
lg

OR โกยกำไรQ1/68อยู่ที่ 4,380ล. โตขึ้น46%ไตรมาสก่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



OR โชว์กำไรไตรมาส1/68 แตะ 4,380ล้านบาท เติบโตขึ้น 17.6%จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 46%จากไตรมาสก่อน ขณะที่รายได้ขายและบริการอยู่ที่ 182,422 ล้านบาท ลดลง1.9%จากไตรมาสก่อน มาจากปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่ลดลง แต่ มีEBITDA เพิ่มขึ้น32.7% มาจากทุกกลุ่มธุรกิจ พร้อมเดินหน้าขยายและสร้างความแข็งแกร่งของของธุรกิจ

หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส1/68 ว่า บริษัทมีรายได้ขายและบริการ 182,422 ล้านบาท ลดลง1.9% หรือลดลง 3,483 ล้านบาท จากไตรมาสก่อนหน้า โดยหลักจากปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่ลดลง โดยไตรมาสนี้รายได้ขายและบริการของกลุ่มธุรกิจ Mobility ลดลง 3.2% ตามปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่ลดลง
ทั้งธุรกิจตลาดพาณิชย์และธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน กลุ่มธุรกิจ Lifestyle ลดลง 6.4% จากทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่มและธุรกิจอื่น ๆ ตามปัจจัยฤดูกาล ขณะที่กลุ่มธุรกิจ Global เพิ่มขึ้น 14.9% จากปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์ กัมพูชา และสปป. ลาว


ในไตรมาส1 /68 บริษัทมี EBITDA จำนวน 6,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,597 ล้านบาท หรือโตขึ้น32.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส4 /67 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่มธุรกิจโดยกลุ่มธุรกิจ Mobility โตขึ้น39.6%จากภาพรวมกำไรชั้นต้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่เพิ่มขึ้น กลุ่มธุรกิจ Lifestyle โต 9.8% เพิ่มขึ้นทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจอื่นๆ กลุ่มธุรกิจ Global เติบโต30.8% โดยหลักจากประเทศฟิลิปปินส์ที่มีผลประกอบการฟื้นตัว

สำหรับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน (Share
of gain from investments) ภาพรวมลดลง โดยหลักเมื่อไตรมาสก่อน บริษัทร่วมทุนในประเทศเมียนมาได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ในไตรมาสนี้อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบาทเทียบดอลลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้เกิดผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และมีผลกำไรจากตราสารอนุพันธ์ ทำให้ในไตรมาส1/68 OR มีกำไรสุทธิจำนวน 4,380 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 46%จากไตรมาสก่อน 1,381 ล้านบาท


สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส1/68 เมื่อเทียบกับไตรมาส1/67 มีEBITDA เพิ่มขึ้น 311 ล้านบาท หรือโตขึ้น 5.0%โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจ Global ที่มีกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่ดีขึ้นในประเทศสปป.ลาว ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา และกลุ่มธุรกิจ Lifestyle จากการควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานสุทธิได้ดีขึ้น ในขณะที่กลุ่มธุรกิจ Mobility ลดลงจากกำไรเฉลี่ยต่อลิตรที่อ่อนตัวลง แม้ว่าปริมาณจำหน่ายน้ำมันเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะน้ำมันอากาศยาน สำหรับค่าใช้จ่ายดำเนินงานสุทธิลดลง โดยหลักจากค่าจ้างบุคคลภายนอก สำหรับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน (Share of gain from investrments) ภาพรวมเพิ่มขึ้น เป็นสาเหตุหลักที่ส่งผลให้ OR มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 657 ล้านบาท โตขึ้น17.6%


ทั้งนี้ ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา OR ยังคงขยายธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์อย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านสุขภาพและความงาม (Health & Beauty) โดยล่าสุดขยายเครือข่ายร้าน found & found เป็น 10 สาขา ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สะท้อนความแข็งแกร่งของรากฐานสำหรับการเติบโตในอนาคต โดยในปีนี้ เปิดสาขาใหม่ที่ PTT Station พระรามสี่ The Glass Market บางนา และเดอะมอลล์ บางแค พร้อมวางเป้าหมายขยายเป็น 50 สาขาภายในปี 2569 อีกทั้งยังได้จัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อดำเนินธุรกิจและการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและสอดคล้องกับ กลยุทธ์สร้างการเติบโตในธุรกิจ Lifestyle ในอนาคต นอกจากนี้ ยังได้เปิด Café Amazon Concept Store แห่งแรกในกัมพูชาด้วยเมนูเครื่องดื่มและอาหารที่รังสรรค์มาเป็นพิเศษให้แก่ผู้บริโภคชาวกัมพูชา พร้อมเสริมสร้างความเจริญเติบโตที่ยั่งยืนร่วมกับประเทศกัมพูชาตามแนวคิด "They Grow - We Grow" ซึ่งเป็นแนวทางที่ OR ยึดถือในการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น
OSZAR »